รู้จัก Negative Income Tax ภาษีช่วยคนไม่มีรายได้

ทำความรู้จัก “Negative Income Tax (NIT)” ภาษีเงินได้ช่วยคนจน ชดเชยเงินให้คนรายได้น้อย-ทำให้คนไม่มีรายได้ “ได้เงิน” ลดความเหลื่อมล้ำ ดึงคนเข้าระบบภาษี

Negative Income Tax หรือ NIT เป็นแนวคิดที่เสนอขึ้นโดยนักเศรษฐศาสตร์ชื่อดังอย่าง “มิลตัน ฟรีดแมน” เป้าหมายเพื่อแก้ไขปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำทางรายได้ในสังคมด้วยการให้รัฐบาลจ่ายเงินให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยหรือไม่มีรายได้เลย แทนที่จะเก็บภาษีจากคนที่มีรายได้น้อย

หลักการของ Negative Income Tax 

– รัฐกำหนดระดับรายได้พื้นฐาน “ขั้นต่ำ” ที่เหมาะสมต่อการการดำรงชีวิต เช่น 10,000 บาท/เดือน (ตัวเลขสมมติ)

– หากบุคคลมีรายได้น้อยกว่าระดับนี้ รัฐบาลจะจ่ายเงินชดเชยให้ เพื่อให้รายได้ของบุคคลนั้นถึงระดับที่กำหนด เช่น หากบุคคลมีรายได้ 7,000 บาท/เดือน รัฐบาลอาจจ่ายเพิ่ม 3,000 บาท เพื่อให้รายได้รวมเป็น 10,000 บาท

– เมื่อรายได้ของบุคคลเพิ่มขึ้น การชดเชยจากรัฐบาลจะลดลงตามสัดส่วน จนกระทั่งรายได้ถึงระดับที่กำหนดและไม่ต้องการการชดเชยอีกต่อไป

ข้อดีของ Negative Income Tax 

เป็นการลดความเหลื่อมล้ำ เพราะมีการสนับสนุนรายได้พื้นฐานให้ผู้ที่มีรายได้น้อย เพื่อให้มีมาตรฐานการครองชีพขั้นต่ำที่เพียงพอ โดยไม่ต้องพึ่งพาสวัสดิการอื่น ๆ ของรัฐ นอกจากนี้ยังช่วยกระตุ้นให้คนทำงานมากขึ้น แม้จะมีรายได้น้อยก็ยังได้รับการชดเชยจากรัฐบาล และปรับระดับการชดเชยตามสภาวะเศรษฐกิจและระดับรายได้ของประชาชน ทำให้ระบบสามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจได้ดีกว่าระบบสวัสดิการที่เป็นแบบคงที่

ข้อเสียของ Negative Income Tax 

แน่นอนว่าค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสูงขึ้น เพราะระบบ NIT ทำให้รัฐบาลต้องหาเงินจำนวนมากในการจ่ายชดเชยรายได้ให้กับประชาชน โดยเฉพาะในช่วงแรกของการนำระบบมาใช้ ซึ่งอาจเป็นภาระทางการคลังอย่างมาก และอาจส่งผลต่อเศรษฐกิจโดยรวมในระยะยาว เช่น การเพิ่มหนี้สาธารณะ หรือการเพิ่มอัตราเงินเฟ้อ ทำให้เศรษฐกิจมีความไม่เสถียรได้

นอกจากนี้ ถึงแม้ว่า NIT จะถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นให้คนทำงาน แต่บางคนอาจรู้สึกว่าไม่จำเป็นต้องทำงานหนักหรือทำงานเพิ่ม เพราะรู้ว่ารัฐบาลจะชดเชยรายได้ให้ ซึ่งอาจส่งผลให้มีผู้คนลดชั่วโมงการทำงานหรือเลือกที่จะไม่ทำงานเลยก็ได้ สุดท้ายภาระนี้จะตกสู่ “เดอะ แบก” กลุ่มคนทำงานที่เสียภาษี จะกลายเป็นผู้ได้รับผลกระทบจากระบบ NIT มากที่สุด เพราะรู้สึกถึงความไม่เป็นธรรม ต้องจ่ายภาษีเท่าเดิม หรือ อาจถูกรัฐตั้งอัตราภาษีที่มากกว่าเดิม เพราะต้องใช้เงินจ่ายชดเชยให้ผู้ที่มีรายได้น้อย ทำให้บั่นทองแรงจูงใจในการทำงานหรือการลงทุน

บางประเทศได้มีการทดลองใช้แนวคิด Negative Income Tax ไปบ้างแล้ว โดยมีรายละเอียดและใช้ชื่อเรียกที่แตกต่างกัน เช่น

– Earned Income Tax Credit (EITC) – สหรัฐอเมริกา เกาหลีใต้ และสวีเดน

– Independent Earner Tax Credit (IETC) – นิวซีแลนด์

– Workfare Income Supplement (WIS) – สิงคโปร์

– Working Income Tax Benefit (WITB) – แคนาดา

– Working Tax Credit (WTC) – สหราชอาณาจักร

เมื่อรู้กันแล้วว่า Negative Income Tax (NIT) ช่วยให้คนที่ไม่มีรายได้หรือมีรายได้ต่ำกว่าเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด นอกจากจะไม่ต้องเสียภาษีแล้ว จะยังได้รับเงินชดเชยจากรัฐบาลด้วยเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในสังคม ซึ่งประเทศไทย จะมีการใช้ Negative Income Tax ได้หรือไม่นั้น คงต้องรอดูกันต่อไป แต่ถ้าใครรอไม่ไหว ทั้งยังกังวลเรื่องความผันผวนของเศรษฐกิจและภาษี แนะนำให้เลือกซื้อประกันสะสมทรัพย์ก่อนเลย ชัวร์กว่า!

AIA Saving Sure (Non Par) ประกันสะสมทรัพย์ ยิ่งอยู่นาน ก็ยิ่งได้มาก ชัวร์

เหมาะสำหรับคนทำงานทุกอาชีพ ที่เป็นห่วงเรื่องรายได้ที่ไม่แน่นอนในอนาคต แค่ออมในรูปแบบประกันเพียง 10 ปี ก็รับเงินหลังเกษียณแบบชัวร์ ๆ

– รับเงินคืนรายปีแบบชัวร์ๆ ตั้งแต่อายุ 60 – 98 ปี หากมีชีวิตอยู่

– รับผลประโยชน์รวมสูงสุด 820%* ของจำนวนเงินเอาประกันภัย

– คุ้มครองถึง 99 ปี สามารถแนบสัญญาเพิ่มเติมได้

– ลดหย่อนภาษีได้สูงสุด 100,000 บาท**

สนใจทำประกัน AIA Saving Sure (Non Par) กดติดต่อกลับเพื่อกรอกแบบฟอร์ม ให้ตัวแทนแนะนำแบบประกันที่เหมาะกับคุณ

*หากผู้เอาประกันภัยมีหนี้สินใดๆ คงค้างตามกรมธรรม์ บริษัทมีสิทธิหักจำนวนหนี้สินดังกล่าวออกจากจำนวนเงินผลประโยชน์ที่พึงจ่ายก่อน
**เบี้ยประกันภัยสามารถหักลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาตามหลักเกณฑ์ที่กรมสรรพากรกำหนด
หมายเหตุ
– ข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครองจะระบุไว้ในกรมธรรม์ประกันภัยที่ออกให้กับผู้ถือกรมธรรม์
– ผู้ขอเอาประกันภัยควรศึกษาทำความเข้าใจรายละเอียดข้อกำหนดและเงื่อนไขของความคุ้มครอง รวมทั้งข้อยกเว้นไม่คุ้มครอง ของผลิตภัณฑ์ประกันภัย และเงื่อนไขที่เอไอเอประกาศ ก่อนตัดสินใจทำประกันภัยทุกครั้ง
รวบรวมข้อมูลโดย เอไอเอ ประเทศไทย
Scroll to Top